กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
สำนักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง
หน้าหลัก
เกี่ยวกับ ปภ.ระยอง
วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย
บุคคลากร
ความเป็นมา
ดวงตราสัญลักษณ์
ยุทธศาสตร์
พระราชบัญญัติ
ระเบียบ
ข้อกำหนด
ประมวลภาพกิจกรรม
รายงานประจำวัน
จัดซื้อจัดจ้าง
หนังสือราชการ
ข้อมูลในการเฝ้าระวังฯ
ประกาศแจ้งเตือนฯ
วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเที่ยม
อุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ระดับน้ำรายชั่วโมง
แผนที่ค่าดัชนีวัดความชุ่มชื้นวกฤติของดิน
สถานการณ์น้ำในจังหวัด
คาดการณ์สภาวะอากาศ
ระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม
ติดต่อเรา
สถิติการบริการสาธารณภัย
ดาวน์โหลด
แบบประเมินความพึงพอใจ
รายงานสรุปความพึงพอใจ สนง.ปภ.ระยอง
แผนสาธารณภัย
น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง
น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
ประกาศแจ้งเตือนฯ
น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
แจ้งเตือนภัย พายุฝนฟ้าคะนอง และคลื่นลมแรง 18-21 มิถุนายน 2564
ด่วนที่สุด เรียน นายอำเภอทุกอำเภอ/ผู้อำนวยการอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง/รองผู้อำนวยการจังหวัดนายกเทศมนตรีนครระยอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด นายกเทศมนตรีเมืองบ้านฉาง/ผู้อำนวยการท้องถิ่น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 18 – 21 มิถุนายน 2564 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและคลื่นลมแรง ขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. การเตรียมความพร้อม 1.1 การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัย ให้มอบหมายเจ้าหน้าที่ติดตาม ข้อมูลสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และเหตุการณ์ที่อาจส่งผลให้เกิดสาธารณภัยในช่วงฤดูฝน รวมทั้งวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจของผู้อำนวยการแต่ละระดับ สำหรับใช้ในการสื่อสาร แจ้งเตือนประชาชน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุ ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพพื้นที่ 1.2 การจัดทำแผนเผชิญเหตุอุทกภัย ให้ทบทวนและปรับปรุงแผนเผชิญเหตุอุทกภัยของอำเภอให้เหมาะสม สอดคล้องกับสถนการณ์ปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับการจัดทำรายละเอียดในประเด็น ดังนี้ (1) ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน โดยการประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงปัจจุบัน ประกอบกับข้อมูลการเกิดอุทกภัยที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อให้ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด (2) รายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยของหน่วยงานที่มีความพร้อมใช้งานและเหมาะสมตามลักษณะของภัย (3) การกำหนดจุด/พื้นที่ปลอดภัยประจำหมู่บ้าน/ชุมชน เส้นทางการอพยพหน่วยงานผู้รับผิดชอบการเตรียมแผนรองรับการอพยพประชาชน การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียงพอเหมาะสมระหว่างการอพยพ การจัดเตรียมแผนการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อรองรับกรณีผู้ประสบภัยไม่สามารถกลับเข้าที่พักอาศัยได้ และเนื่องจากยังคงมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงขอให้ความสำคัญกับการจัดทำแนวทางดังกล่าว ให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขด้วย (4) ให้ซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเน้นย้ำ บทบาท หน้าที่ ตลอดจนสร้างความเข้าใจถึงกลไกการทำงานร่วมกันตามแนวทางของระบบบัญชาการเหตุการณ์ เมื่อเกิดสถานการณ์อุทกภัย 1.3 การระบายน้ำและการเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดับดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะตามรอยต่อเขตรับผิดชอบที่เป็นเส้นทางน้ำไหลผ่าน และให้ความสำคัญในการดำเนินการ ดังนี้ (1) พื้นที่เสี่ยงในเขตชุมชน พื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ และเส้นทางคมนาคมที่มักเกิดอุทกภัยเป็นประจำ ให้เร่งทำการขุดลอกท่อระบายน้ำ ดูดเลน ทำความสะอาดร่องน้ำ เพื่อกำจัดสิ่งกีดขวางออกจากทางระบายน้ำ (2) คู คลอง แหล่งน้ำต่าง ๆ ให้เร่งกำจัดวัชพืช ขยะ สิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้สามารถรองรับน้ำฝนและน้ำจากท่อระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ (3) สำหรับน้ำที่มีการระบาย ขอให้กำหนดแนวทาง และวิธีการในการลำเลียงน้ำไปยังพื้นที่รองรับน้ำต่าง ๆ อาทิ การเปิดทางน้ำ การสูบส่งน้ำไปยังแหล่งน้ำสาธารณะ เป็นต้น เพื่อประโยชน์ ในการกักเก็บน้ำไว้ใช้กรณีเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง 1.4 การแจ้งเตือนภัย เมื่อมีแนวโน้มการเกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มขึ้นในพื้นที่ ให้ดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้ (1) แจ้งเตือนไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดับตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและเตรียมการในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการล่วงหน้า (2) แจ้งเตือนให้ประชาชนทราบในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ อาทิ สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ช่องทางการแจ้งข้อมูล และการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (3) กรณีจังหวัดที่มีเส้นทางน้ำเชื่อมต่อกันให้มีการประเมินสถานการณ์ร่วมกันและแจ้งเตือนระหว่างจังหวัดต้นน้ำและจังหวัดปลายน้ำอย่างใกล้ชิด 2. การเผชิญเหตุ เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มในพื้นที่ ให้ยึด แนวทางการจัดการสาธารณภัยในภาวะฉุกเฉิน ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรทาสาธารณภัย โดยดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้ 2.1 จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นศูนย์ควบคุม สั่งการ และอำนวยการหลักในการระดมสรรรพกำลังตลอดจนการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานต่าง ฯ ทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรสาธารณกุศล 2.2 ให้มอบหมายฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ตลอดจนอาสาสมัครประชาชนจิตอาสาเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงในชุมชน พื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ สถานที่สำคัญต่าง ๆ และร่วมกันกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเมื่อเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ทั้งนี้ หากมีกรณีน้ำท่วมขัง สร้างความเดือดร้อน ความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน ให้เร่งกำหนดแนวทางการระบายน้ำ พร้อมทั้งสั่งใช้เครื่องจักรกลในพื้นที่ของหน่วยงาน ฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร และภาคเอกชน เพื่อเร่งระบายน้ำและเปิดทางน้ำในพื้นที่ 2.3 จัดชุดปฏิบัติการเร่งให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพแก่ประชาชนที่ประสบภัยตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ความช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่มการรักษาพยาบาล โดยอย่าให้เกิดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติ และเชิญชวนประชาชนจิตอาสา มีส่วนร่วมกับภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย 2.4 กรณีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ให้บูรณาการหน่วยงานเป็นทีมช่างในพื้นที่ ทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สถาบันการศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนจิตอาสา เพื่อเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนโดยเร็ว 2.5 กรณีเส้นทางคมนาคมได้รับความเสียหาย หรือถูกน้ำท่วมจนประชาชนไม่สามารถใช้ยานพาหนะสัญจรได้ ให้จัดทำป้ายแจ้งเตือนพร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร แนะนำเส้นทางเลี่ยงที่ปลอดภัย รวมทั้งจัดยานพาหนะที่เหมาะสม อาทิ เรือ รถยกสูง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนและให้เร่งซ่อมแซมเส้นทางที่ชำรุด/ถูกตัดขาด เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรได้โดยเร็ว 2.6 เน้นย้ำการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในช่วงเกิดสถานการณ์อุทกภัย ผ่านสื่อมวลชน ตลอดจนสื่อแขนงต่าง ๆ และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง 2.7 ให้รายงานสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มที่เกิดขึ้นต่อกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยองทราบ และหากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์ความเสียหาย ผลกระทบที่เกิดกับประชาชน และการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ให้ทราบในทันที ทางหมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 0 3869 4129 , 34 และรายงานทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการ ขอแสดงความนับถือ (นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย) รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ผู้อำนวยการจังหวัด
รูปภาพประกอบ
วิดีโอประกอบ
ลิงค์อื่นที่เกี่ยวข้อง
< Back